เสือ-มังกร
เสือ-มังกร หรือ ดราก้อนไทเกอร์ (Dragon Tiger) เกมส์ในบริการของ Gclub ที่มีคนเล่นเป็นจำนวนมาก เป็นเกมส์ที่ ไม่มีกติการซับซ้อน กติกาให้เลือกแทงได้ 2 ฝั่ง คือ เสือ และ มังกร เลือกแทงว่าฝั่งไหนจะได้ไพ่ที่มีแต้มมากกว่า โดยจะได้ไพ่ฝั่งละหนึ่งใบ ไพ่หน้า K แต้มมากที่สุด ไพ่หน้า A แต้มน้อยสุด เสือมังกร วิธีเล่น อย่างละเอียดมีดังต่อไปนี้
การวางเดิมพัน
หลังจากวางเดิมพันฝั่งมังกรหรือเสือแล้ว ผู้เล่นจะรอเจ้ามือวางไพ่บนกระดานแล้วหงายไพ่ ไพ่ที่มีแต้มสูงกว่าจะชนะ แต่เกมนี้มีกฎสำคัญ 2 ข้อ ข้อแรกไพ่เอซมีแต้มต่ำ ดังนั้นการลำดับของไพ่จากต่ำไปสูงจะเป็นดังนี้ เอซ-2-3-4-5-6-7-8-9-10-J-Q-K นอกจากนี้
เมื่อไม่คำนึงถึงว่าผู้เล่นจะวางเดิมพันฝั่งมังกรหรือเสือ ถ้าทั้งสองฝั่งได้แต้มเท่ากัน เช่น 8 กับ 8 เกมนั้นจะถือว่าเสมอ เจ้ามือจะได้ครึ่งนึงของการเดิมพัน ส่วนไพ่แต้มสูงจะชนะ ไพ่แต้มต่ำจะแพ้
คาสิโนจะไม่มีความเป็นต่อหากไม่ได้รับประโยชน์จากการเสมอ ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละมือมีความเป็นไปได้ถึง 86,320 โดยมี 6,448 ผลลัพธ์ที่จะเสมอกัน สิ่งนี้ช่วยให้คาสิโนมีความเป็นต่อของการเดิมพันไพ่เสือมังกรอยู่ที่ร้อยละ 3.73 ความเป็นต่อนี้มากกว่าการเล่นบาคาร่า
เดิมพันเสมอ
ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันแต้มเสมอ ซึ่งมีความเป็นไปได้ 6,448 ผลลัพธ์ จากความเป็นไปได้ทั้งหมด 86,320 มาตรฐานการจ่ายสำหรับแต้มเสมอคือ 8 ต่อ 1 ทำให้คาสิโนเป็นต่อมากถึงร้อยละ 32.77 ถ้าคุณเคยเล่นคาสิโนวอร์ คุณจะทราบว่าเดิมพันเสมอจะจ่ายที่ 10 ต่อ 1 สำหรับความเป็นต่อของคาสิโนครึ่งเท่า ในความเป็นจริงที่ร้อยละ 17.83 คาสิโนออนไลน์สามารถจ่าย 11 ต่อ 1 และยังคงมีความเป็นต่อที่ร้อยละ 10.36
การเดิมพันสูงต่ำ
ผู้เล่นอาจวางเดิมพันว่าไพ่ (มังกรหรือเสือ) จะมีแต้มสูง (มากกว่า 7) หรือต่ำ (น้อยกว่า 7) การเดิมพันนี้มีไพ่ 6 ใบที่ถือว่าแต้มสูง (8,9,10,J,Q,K) และไพ่แต้มต่ำ 6 ใบ (เอซ,2,3,4,5,6) ผู้วางเพิมพันจะชนะถ้าทายแต้มสูงต่ำได้ถูกต้อง และจะแพ้เดิมพันหากทายผิด หากแต้มออกมาเสมอที่ 7 ผู้เล่นจะเสียเดิมพันเช่นกัน คาสิโนมีความเป็นต่ออยู่ที่ร้อยละ 7.69 ในการวางเดิมพันนี้
การเดิมพันชุดไพ่
ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันว่าจะจั่วได้ไพ่ชุดใด เมื่อเดิมพันได้ถูกต้องจะได้รับผลตอบแทนที่ 3 ต่อ 1 และจะเสียเดิมพันเมื่อไพ่ในฝั่งที่เลือก (มังกรหรือเสือ) ไม่ตรงกับชุดไพ่ที่วางเดิมพัน คาสิโนจะชนะการเดิมพันเมื่อได้ไพ่แต้ม 7